รูปหล่อท่านท้าวมหาพรหมธาดา (จักรเพชร) รุ่นแรก วัดบรมสถล (วัดดอนยานนาวา) เนื้อกาไหล่ทอง ตอกโค๊ต และหมายเลข ปี 2555 (no box)

สามเณรวิรัช ลุปต์ซ่า (มหาฤษีนารท ราชโยคะ) วัดดอน ยานนาวา กทม. ได้บวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ ๗ ปี (พ.ศ.๒๔๙๗) นอกจากท่านได้ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านยังมีความสนใจศึกษาทางด้านไสยศาสตร์อีกด้วย โดยออกเดินธุดงค์ไปจนถึงชายแดนไทยกับเขมร บริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งดินแดนแถบนี้อุดมไปด้วยครูบาอาจารย์ทางด้านไสยเวทย์เป็นจำนวนมาก

             คืนหนึ่ง ณ บริเวณยอดเขาพระวิหาร ท่านอาจารย์วิรัชได้นั่งสมาธิจนเมื่อจิตของท่านสงบดีแล้วก็ได้พบกับพระจิตของ “พระผู้สำเร็จองค์แรกของโลก” ซึ่งมีพระนามทางโลกว่า “องค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา” ส่วนพระนามทางธรรม คือ “จอมมหาเอกะ ปรมะ ปรมัตถะ มหาอัฐฐะทิฏฐะ” หรือที่เรียกว่า “องค์ธรรม” นั่นเอง

             พระผู้สำเร็จองค์นั้นได้ทรงสั่งสอน “ธรรมะแห่งธรรมชาติ” อันแท้จริงให้แก่ท่านอาจารย์วิรัช และทรงดำริให้ท่านนำไปเผยแพร่ อบรม สั่งสอน “ธรรมะแห่งธรรมชาติ” หรือ “ธรรมะของโลก” ให้แก่สาธุชนทั้งหลาย โดยพระองค์ทรงตรัสไว้เป็นปริศนาธรรมว่า

             “พระองค์ย่อมแสดงให้ปรากฏซึ่งธรรมะแห่งธรรมชาติมาแล้วทุกยุคทุกสมัย เมื่อใดอธรรมรุ่งเรือง ธรรมะย่อมปรากฏ เพื่อปราบอธรรม”

             ท่านอาจารย์วิรัช สามารถนำเอาเรื่องของไสยศาสตร์มาแสดงให้ผู้คนได้เห็นเป็นรูปธรรรม

             นอกจากนี้ท่านยังได้สั่งสอนและเผยแพร่ “องค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา” อันเป็น “หัวใจธรรมะ” หรือ “ธรรมแห่งธรรมชาติอันแท้จริง” ซึ่งมีนัย คือ ความจริงที่นำไปสู่ความสงบสุขอย่างแท้จริงของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกนี้

             กล่าวกันว่า พระพรหมเป็นเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ถือกันว่าท่านเป็นพระผู้สร้างจักรวาล และทรงเป็นหนึ่งใน “ตรีมูรติ”  อันประกอบไปด้วยเทพเจ้า ๓ องค์ คือ พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ

             ในคติของพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า พระพรหม เป็นชาวสวรรค์ชั้นสูงกว่าเทวดา สถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นพรหม และเนื่องจากพระพรหมยังอยู่ในกามาวจรภพ จึงยังคงมีการเวียนว่ายตายเกิด

             วัตถุมงคลที่เป็นรูปเหมือนองค์ท่านท้าวมหาพรหมนั้น มีการสร้างกันมากมาย หลายสาย หลายสำนัก แต่สำหรับท่านอาจารย์วิรัช ท่านสร้างเป็น “พระพรหมธาดา” ที่มีพระนามเรียกเฉพาะของศิษย์สายนี้ว่า “องค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา” เป็นการสร้างในศาสตร์ของท่าน

             วัตถุมงคลในนาม “ท่านท้าวมหาพรหมธาดา” ได้จัดสร้างขึ้นที่ วัดบรมสถล คือ ๑.เหรียญจักรเพชร รุ่นแรก ปี ๒๕๐๗, ๒.เหรียญจักรเพชร รุ่น ๒ วัดบรมสถล ปี ๒๕๕๔, ๓.เหรียญจักรเพชร รุ่น ๓ วัดบรมสถล ปี ๒๕๕๕

             วัตถุมงคลทุกรุ่นที่จัดสร้างไม่เพียงพอต่อความต้องการของศิษยานุศิษย์ เพราะทุกคนล้วนมีประสบการณ์จากการใช้วัตถุมงคลทุกรุ่นตลอดมา

ในปี ๒๕๕๖ นี้ พระอาจารย์สำเริง วัดบรมสถล (วัดดอน) จึงมีดำริที่จะจัดสร้างวัตถุมงคล “รูปหล่อลอยองค์ท้าวมหาพรหมธาดา" ขนาด ๑.๕ ซม. นับเป็นรูปหล่อลอยองค์ ขนาดเล็ก รุ่นแรก ที่มีการจัดสร้างขึ้นเพื่อนำรายได้สมทบทุนก่อสร้าง “อาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา”

             สำหรับชนวนมวลสารที่นำมาหล่อหลอมในพิธีนี้ ประกอบด้วย เหรียญอัศวถะ, เหรียญจักรเพชร รุ่นปี ๕๔ และรุ่นปี ๕๕ รวมทั้งแผ่นทองลงจารโดย หลวงพ่อณรงค์ เจ้าอาวาสวัดบรมสถล, หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน, หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง, หลวงปู่ถ้ำ, พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ และแผ่นทองจารของพระคณาจารย์ต่างๆ อีกจำนวนมาก

             พิธีเททองหล่อรูปหล่อท่านท้าวมหาพรหมธาดา ได้ทำไปแล้วเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๕ ณ วัดบรมสถล (วัดดอน) เขตสาทร กทม.

             องค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา ได้ทรงเมตตาประทานพรไว้ว่า ผู้ใดนำเหรียญหรือรูปเหมือนของท่านไปสักการบูชา ผู้นั้นย่อมมีพระพรอันบริสุทธิ์และสูงสุดของบิดา มารดา ติดตัวเสมอไป วัตถุมงคลท่านท้าวมหาพรหมธาดา จึงเป็นตัวแทนสื่อถึงความรัก ความเมตตา ความกรุณา และคุณธรรม ที่พ่อแม่มีให้กับลูก และหากผู้ใดสามารถประสานจิตได้อย่างมั่นคงแล้ว ชีวิตจะดียิ่งๆ ขึ้น ไม่มีตกชั้นลงแน่นอน ดังคำกล่าวที่ว่า “เมื่อพ่อแม่ให้พรเรา พรนั้นแหละประเสริฐสุด ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าพรใดๆ เช่นเดียวกับพรของพระพรหม อันยิ่งใหญ่และมหาศาล”