ด้วยการที่พระอาจารย์ท่านมีนิสัยชอบให้ ชอบแจก มีครั้งหนึ่งท่านไปพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่จังหวั ดระยอง ณ วัดเขาโพธิ์ พอเสร็จพิธีท่านก็ลงมาจากข้างบนอาราม มีโยมมาทักอาจารย์ว่าจำท่านได้ พูดคุยกันได้สักพักหนึ่ง โยมก็ขอวัตถุมงคล ท่านก็เลยให้วัตถุมงคลติดตัวไป พอให้คนหนึ่ง ก็มีอีกคนขอตามมาจนกระทั่งมีคนมารุมล้อมขอวัตถุมงคลจ ากพระอาจารย์เต็มไปหมดไม่ว่าชายและหญิง จนอาจารย์ขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ ลูกศิษย์เห็นท่าไม่ดีต้องตะโกนบอกว่า วัตถุมงคลอยู่ทางนี้ ใครยังไม่ได้ให้มาเอาทางนี้ อย่างนี้แล้วพระอาจารย์จึงสามารถขึ้นรถเพื่อจะกลับวั ดได้ แต่ทางลูกศิษย์ เหนื่อยหน่อยเพราะต้องฝ่าฝูงผู้คนแล้วเดินไปขึ้นรถที ่จอดเลยวัดไป เพราะถ้าจอดรถใกล้ๆ รถก็คงไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนแน่
อีกครั้งหนึ่งมีงานผ้าป่าที่วัดคนที่เข้ามาร่วมงานมา กันเยอะมากทั้งจากต่างจังหวัดและจากหมู่บ้านเอง ในวันนั้น มีโยมกลุ่มหนึ่งมาถึงหลังจากที่งานทั้งหลายได้เสร็จห มดแล้ว เขาเหล่านั้นก็เลยไปนั่งทำวัตรเย็นกับพระ พอพระอาจารย์ท่านเดินผ่านมาเห็น ท่านก็ทักคุยกันได้สักพักหนึ่งพระอาจารย์ท่านก็ได้ให ้วัตถุมงคลไป แต่ไม่ใช่แค่พระองค์เล็กๆที่ไว้ห้อยคอ พระอาจารย์ท่านได้ให้เป็นพระบูชา เนื้อโลหะบ้าง เนื้อผงบ้าง ให้แก่โยมคณะนั้น
นอกจากเรื่องการแจกพระแล้ว ท่านก็ยังมีความห่วงใยกับลูกศิษย์อย่างมาก อย่างเช่นเวลามีลูกศิษย์มาช่วยงานที่วัด ท่านจะคอยถามว่า ทานข้าว ทานอะไรแล้วหรือยัง มีอาหารอยู่ตรงนี้นะ มีผลไม้อยู่ตรงนี้นะ ไปจัดการหาทานกันได้เลย หรือจะพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะไป บางครั้งท่านเห็นลูกศิษย์ยังไม่ทานอะไรซักที ด้วยความที่เป็นห่วงศิษย์ท่านก็ไปหยิบถาดผลไม้ที่ญาต ิโยมนำมาถวาย นำมาให้ลูกศิษย์ทาน
ญาติโยมบางคนที่ไปหาอาจารย์ที่วัดแล้วไม่เจอ ก็เนื่องจากท่านเข้าป่าเพื่อไปปฏิบัติสมาธิ และหาว่านต่างๆเพิ่มเติม บางครั้งก็ไปที่ถ้ำวัวแดง และก็เลยต่อไปที่ถ้ำต่างๆ เพราะถ้ำวัดแดงยาว และติดกับถ้ำอื่นๆอีกมาก หลายครั้งอาจารย์ก็พาลูกศิษย์เดินธุดงค์ที่ถ้ำวัวแดง ด้วย ซึ่งระหว่างทางต้องผ่านป่าเขาต่างๆ มีครั้งหนึ่งระหว่างทางไป ได้พบเพชรหน้าทั่ง ซึ่งเป็นเพชรที่อยู่ในดิน เมื่อลูกศิษย์ขุดขึ้นมา พบว่าเพชรนั้นมีก้อนใหญ่ประมาณหัวคนได้ แต่เนื่องจากหนักเกรงว่าถ้านำไปเลยจะแบกกันไม่ไว้ ก็เลยวางทิ้งไว้ และตั้งใจว่าขากลับลงมาจะมาเอาไป แต่พอกลับมาเพชรหน้าทั่งก้อนนั้นก็ก็ได้หายไปแล้ว จะว่ามีใครมาขโมยไปก็ไม่น่าเป็นไปได้เพราะนั้นเป็นป่ า พระอาจารย์จึงกล่าวว่า นี่เป็นอาถรรพ์ของป่า หาเจอสิ่งใดแล้วต้องเอาไปทันที อาถรรพณ์ของป่านั้นยังมีอีกมาก หากใครที่ไม่เคยเข้าป่า หรือเข้าป่าเป็นครั้งแรก ก็ถือว่าน่าอันตรายทีเดียว
ในเรื่องของการจัดสร้างวัตถุมงคล มีลูกศิษย์ขอร้องให้ท่านทำตะกรุดทองคำให้ โดยได้เตรียมแผ่นทองคำให้ท่านเรียบร้อย ท่านก็ได้รับปากบอกว่า เดี๋ยวท่านจะทำให้ เมื่อทำเสร็จ วันนั้นมีโยมคนหนึ่งมาหาท่านด้วยความร้อนใจ มีความทุกข์อยากจะได้เครื่องรางของขลังจากพระอาจารย์ เป็นที่ยึดเหนี่ยวและเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อ พระอาจารย์ท่านเห็นว่า โยมคนนั้นมีเรื่องเดือดร้อนจริงๆ จึงได้มอบตะกรุดทองคำให้กับโยมผู้นั้นไป พร้อมกันนั้นจึงได้โทรไปบอกกับลูกศิษย์ผู้เป็นเจ้าขอ งตะกรุดทองคำว่า ได้มอบตะกรุดให้กับโยมผู้อื่นไปแล้ว และพระอาจารย์ได้อธิบายให้แก่ลูกศิษย์ผู้นั้นได้ทราบ ว่า การที่ท่านได้มอบตะกรุดให้โยมที่เดือดร้อนนั้น ตัวของลูกศิษย์เองก็จะได้บุญไปด้วย เพราะเหมือนกับเราได้ช่วยเหลือคน เมื่อได้ฟังอย่างนี้แล้ว ลูกศิษย์คนนั้นก็ได้อนุโมทนาด้วย
![]() วัตถุมงคลของพระอาจารย์หลายอย่างมีปาฏิหารย์เกินกว่า ที่จะพิสูจน์ได้ ยกตัวอย่างเช่น บางคนได้พระจากพระอาจารย์ไป พอวันต่อมาได้กลับมาหาอาจารย์พร้อมด้วยกรอบพลาสติกที ่ว่างเปล่า ซึ่งสอบถามก็ได้ความว่า หลังจากที่เขาได้รับพระจากพระอาจารย์ไป ได้นำไปเลี่ยมพลาสติก หมายปั้นว่า จะนำมาขึ้นคอให้สวยงาม แต่หลังจากเลี่ยมเสร็จแล้ว ตื่นมาวันรุ่งขึ้น พระข้างในได้หายไป พระอาจารย์จึงได้กล่าวว่า ท่านได้บอกแล้วว่าให้ตั้งไปบนหิ้งพระก่อน 7 วัน หลังจากนั้นค่อยนำมาห้อยคอ หรือว่าถ้าหากผิดลูกผิดเมีย ไม่ถึง 3 วันก็จะหายไป พระอาจารย์ท่านก็เป็นพระเกจิรูปหนึ่งที่มีลูกศิษย์ลู กหามากมาย และท่านก็ได้เมตตาถ่ายทอดความรู้และวิชาต่างๆให้กับเ หล่าบรรดาลูกศิษย์ด้วย แต่ในการถ่ายทอดวิชานั้น พระอาจารย์ท่านก็จะดูด้วยว่า ใครเหมาะสมกับวิชาอะไร หรือควรจะให้วิชาไหนติดตัว ซึ่งบางครั้งวิชาเดียวกันรายละเอียดก็จะไม่เหมือนกัน ที่เป็นเช่นนั้นเพราะอาจารย์ต้องการให้ลูกศิษย์ที่ได ้วิชานั้นได้นำวิชาไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์จริงๆ หลายๆคนสงสัยว่าพระอาจารย์ท่านได้วิชาความรู้มาจากไป ไหนมากมาย ท่านสนใจและศึกษาด้านนี้มาต้องแต่ยังเล็ก และได้โอกาสพบและฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มา และได้ธุดงค์ ร่ำเรียนวิชาจากครูบาอาจารย์ขณะธุดงค์ไปในที่ต่างๆ ท่านเองก็เล่าให้ฟังว่า บางครั้งครูบาอาจารย์ของพระอาจารย์ก็เข้ามาสอนนิมิต มาบอกให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้บ้าง ซึ่งก็บ่อยครั้งที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนด้วยวิธีนี้อี กทั้งคัมภีร์ใบลานที่ท่านได้พบเจอในสมัยธุดงค์ และที่มีคนเอามาให้ท่าน ซึ่งเป็นคัมภีร์ใบลานที่เขียนด้วยภาษาขอมก็มี ภาษาไทยโบราณสมัยพ่อขุนก็มี คัมภีร์ใบลานบางเล่มก็มีอาถรรพณ์เพราะหลังจากที่ได้ร ับมาก็เหมือนมีวิญญาณตามมาด้วยมีเสียง พูดที่ฟังไม่เป็นภาษา สำเนียงออกทางเขมร หรือลาวก็ไม่แน่ใจแต่เป็นภาษาโบราณ ที่ไม่คุ้นกับภาษาที่ใช้ในปัจจุบัน ดังนั้นคัมภีร์บางเล่มหลังจากที่ท่านศึกษาและดูแล้วเ ห็นว่า ผู้ที่ได้ไปต่อไปอาจนำไปใช้ในทางที่ผิด ท่านก็เผาทิ้งก็มี อีกทั้งเพื่อเป็นการปลดปล่อยวิญญาณที่ติดตามมากับคัม ภีร์ด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่งมีชาวบ้านมาขอร้องพระอาจารย์ให้ไปช่ วยไล่ผีให้ ลูกศิษย์ที่ติดตามไปคราวนั้น เป็นลูกศิษย์ที่มาจากกรุงเทพ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าโลกนี้มีผี แต่เมื่อไปถึง พบผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งตาขวาง บางครั้งก็กรีดร้องดุจคนบ้าก็ไม่ปาน ลูกศิษย์คนนั้นคิดในใจว่า จัดฉากรึเปล่า แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าไม่น่าจะจัดฉาก เพราะในตอนนั้นก็มีชาวบ้านไม่กี่คนและไม่มีเหตุผลอัน ใดเลยที่ชาวบ้านเหล่านี้จะต้องมาหลอกลวง เพราะถ้าจะโชว์จะจัดฉากก็น่าจะทำตอนคนอยู่มากๆ แต่ ณ ขณะนั้นมีเฉพาะญาติพี่น้องของโยมที่ถูกผีเข้าและพระเ ณรในวัด ส่วนลูกศิษย์จากกรุงเทพฯก็ไปกับพี่ชายซึ่งเป็นศิษย์ข องพระอาจารย์เช่นกันและเห็นเรื่องแบบนี้มาบ่อย จนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว และเมื่อพระอาจารย์เมื่อเห็นหญิงคนนั้น ท่านก็ท่องคาถา ท่องเพียงไม่กี่คำ ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องกรีดและได้สลบไป ลูกศิษย์คนนั้นเมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว มีอาการงง และแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาคิดว่าเรื่องราวอย่างนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ในปัจจุบัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อเห็นกับตา |
|
พอวันที่อาจารย์เดินทางไปถ้ำวัวแดง ท่านนั่งทำวัตรอยู่ด้านในของถ้ำพอทำวัดเสร็จจึงได้กล ิ่นหอมลอยมาในถ้ำ พอท่านออกไป ท่านเห็นพระรูปหนึ่งมาพร้อมกับแสงสว่าง พอท่านอาจารย์เห็น ท่านทั้งดีใจ ปิติ เป็นพระที่มีผมขาวแซมด้านข้างนิดๆ คือ หลวงปู่ใหญ่ นั่นเอง ท่านสั่งให้อาจารย์รีบเดินทางไปถ้ำวัวแดง และเมื่อไปถึงให้สวดปลุกธาตุ และให้ลงไปที่ถ้ำเจ็ดห้อง ให้สวดคาถาเบิกถ้ำและให้ลงไปศึกษาวิชาในนั้น พระอาจารย์จึงรีบเดินทางไปที่ถ้ำวัวแดง ท่านตรงไปที่ถ้ำเจ็ดห้องทันที
พอท่านไปนั่งบริกรรมหัวใจพระธรรม เจ็ด คัมภีร์ คือ สังวิธาปุกะยะปะ หลายพันจบ และที่ถ้ำเจ็ดห้องนั่นเองที่ท่านอาจารย์ได้พบกับพระภ ิกษุชราอีกรูปหนึ่ง พาท่านเข้าชมที่แปลกๆ ในถ้ำเจ็ดห้อง แต่ละห้องจะมีทางไปยาวมาก และท่านอาจารย์ยังบอกอีกว่า ถ้ำเจ็ดห้อง ถ้ำน้ำ ถ้ำวัวแดง ถ้าจะเข้าถ้ำจริง ให้เข้าทางถ้ำน้ำ หรือถ้ำเจ็ดห้อง และที่เขตนี้ยังมีวัวปรอทแดงคอยรักษา หรือเรียกว่า วัวแดงพยนต์ สามารถกลายร่างใหญ่ได้เล็กได้ พอท่านอยู่ได้แค่ชั่วระยะเวลาไม่กี่วัน พระภิกษุชราให้ท่านรีบออกธุดงค์ต่อไปปฏิบัติต่อที่ภู ช้างพานดำ ให้ไปปลดปลอยวิญญาณแถวนั้น และท่านยังบอกอีกว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้ระลึกถึงท่าน และหลวงปู่โสณะ และท่านก็เดินทางหายไปในถ้ำลึก
ท่านอาจารย์จึงได้รู้ว่า พระชราผิวคล้ำนั้นคือหลวงปู่ใหญ่นั่นเอง แต่ก่อนเคยพบท่านจะมาในลักษณะผิวค่อนข้างขาว ส่วนพระโสณะซึ่งเป็นพี่น้องของท่านนั้น ชอบปฏิบัติอยู่ที่ธิเบต และลาว พอออกเดินทาง ท่านเดินข้ามมาทางเขาบังเหยและเขาเหลือง ทางหมู่บ้านประสุขเสริฐ และที่เขตเขาลูกนี้ จะมีเป็ดหิน ซึ่งบางทีกลายร่างเป็นเป็ดจริงบินมาลงน้ำแล้วเป็นเป็ ดหินลอยน้ำให้ชาวบ้านได้พบบ่อยๆ และได้พบกับพระอาจารย์เสา สัญญธโม ซึ่งพอสนทนาธรรมจบ อาจารย์เสาร์ ก็ชวนอาจารย์ไปดูถ้ำเปิดปิด ที่หมู่บ้านเฉลียงทอง ซึ่งถ้ำนี้จะอยู่บนเขา วันพระถ้ำจะเปิด มีเสียงออกมาจากถ้ำเสียงร้องดังมาก เคยมีพระไปนั้งแถวนั้นเสียสติไปหลายองค์
พอท่านอาจารย์ท่านนั่ง จิตสงบท่านได้พบหญิงชายหน้าตาผิวพรรณดีลักษณะสุภาพสา ยตาอ่อนโยนแต่ไม่กระพริบตา เข้ามาหาบอกว่าพวกเขาเป็นชาวลับแลเฝ้าดูแลที่นี่ และดูแลสมบัติไว้รอพระศรีอาริยเมตตรัย และขอให้อาจารย์เทศน์ให้ฟัง อาจารย์ให้ศิล ๕ และสวดบทกรณีให้เขาฟัง จากนั้นชาวลับแลเลยขอนิมนต์พระอาจารย์เข้ามาชมถ้ำในว ันพระ สิบสี่ค้ำ ส่วนพระอาจารย์เสานั้นที่พวกเขาไม่ทำอะไรท่านเหมือนพ ระรูปอื่นและโยมนอื่น เพราะท่านไม่โลภในสมบัติ ท่านชอบหาแต่ว่านตามป่าตามเขาแทบทุกลูกในเขตชัยภูมิ พอคลายกรรมฐาน พระอาจารย์ได้เดินทางต่อ ผ่านหมู่บ้านชาวเขาหลายหมู่บ้าน มาถึงเขายายหอม ท่านได้เข้าไปกราบนมัสการพระพุทธบาทเขายายหอม
เมื่อเดินทางเข้าไปจะผ่านบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ พอท่านหยุดน้ำบ่อไหน น้ำบ่อนั้นจะหมุนทุกบ่อ จนมีคนเดินมาดู 6-7 คนแต่พอออกห่างน้ำก็หยุดหมุน พอเข้าใกล้น้ำก็หมุนต่อ พอดีมีแม่ชีเดินมาพบ จึงก้มลงกราบท่านอาจารย์ และพูดเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้ฟังว่า ถ้าคนมีวาสนาเดินมาดูเงียบๆ น้ำจะหมุน “พระคุณท่านมีบุญหลายแล้วขอโปรดให้ศิลให้พรเพื่อพบหน ทางสวรรค์พระนิพานในอนาคตกาลเถิดเจ้าข้า” แม่ชีผู้มีอายุกล่าวนมัสการท่านพระอาจารย์จึงได้กล่า วให้ศิลให้พรไป เมื่อกล่าวจบอาจารย์จึงลืมตาดูแม่ชีทันใดนั้นร่างแม่ ชีก็หายไปเป็นที่แปลกใจของคณะที่ร่วมเดินทาง
การที่แม่ชีหายไปทำให้ได้คิดว่าในโลกเรานี้ยังมีวิญา ณของผู้บำเพ็ญความดี ท่องอยู่ในวัฎสงสารนี้มีอยู่อีกมาก ซึ่งท่านเหล่านั้นอาจละสังขาร ขณะบวชเป็นพระ เป็นเณร เป็นแม่ชี อยู่ และหลายท่านเหล่านั้นอาจตายด้วยอุบัติเหตุ คือเหตุทำให้ตายทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาอันควร เหตุนี้วิญญาณจึงเกิดทุกข์ท่องวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย ์และเมือวิญญาณนั้นมาเจอพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็ช่วยให้เขาได้พบกับหนทางที่ดี ดังนั้นแล้วควรแผ่กุศลความดีที่ตนได้ปฏิบัตินั้นให้ว ิญาณที่น่าสงสารเหล่านี้ จากนั้นพระอาจารย์เข้าไปกราบพระพุทธบาท แล้วเดินทางต่อ ในช่วงนี้เองสามเณรวิชัยได้เดินทางมาร่วมกับท่าน
อ่านต่อที่ http://bbznet.pukpik.com/scripts/view.php?user=romeo&board=1&id=3&c=1&order=numview
หน้าที่เข้าชม | 2,460,182 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,611,679 ครั้ง |
เปิดร้าน | 7 ก.ย. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |